ลบ แก้ไข

7 อาการผิดปกติของรถที่ทำให้คุณรู้ได้ว่ารถเริ่มมีปัญหาแล้ว




7 อาการผิดปกติของรถที่ทำให้คุณรู้ได้ว่ารถเริ่มมีปัญหาแล้ว

          1.สตาร์ทเครื่องนานกว่าปกติ ทันทีที่เราขึ้นรถแล้วบิดกุญแจเชื่อหรือไม่ครับว่า แม้แต่เสียงสตาร์ทนั้นยังบอกความเป็นสุขของรถท่านได้ โดยปกติแล้วการสตาร์ทเครื่องยนต์นั้นจะใช้การถีบตัวไม่เกิน 3 ครั้งใช้เวลาไม่เกิน 30 วินาที ถ้านานกว่านั้นแสดงว่ารถเริ่มมีปัญหา ซึ่งโดยปกติ หมายถึงแบตเตอร์รี่อาจจะเริ่มเสื่อมสภาพ ยิ่งถ้ารถคุณ 2-3 เมื่อไรแล้วสตาร์ทช้า เตรียมเงินถอยแบตเตอร์รี่ลูกใหม่ได้เลย

          2. ร่องรอยน้ำมัน บางครั้งเมื่อคุณจอดรถแล้วพบรอยน้ำมันหยดเป็นทางนั้น หรือเป็นจุดนั้นอย่าวางใจโดยเด็ดขาด เพราะตามปกติแล้วน้ำมันจะไม่สามารถหยดได้เอง นอกจากเกิดความเสียหายต่อระบบนั้นๆ ซึ่งหมายถึงต้องมีอะไรปิดปกติแล้ว ดังนั้นถ้าพบข้อนี้รับตรวจสอบด่วน

          3.เสียงที่ผิดปกติ ใน หัวข้อนี้อาจจะเป็นเรื่องที่ยากในการสังเกตในระหว่างขับรถแต่คุณสามารถ สังเกตได้เมื่อรถจอดหรือเดินเบาเครื่องยนต์ก่อนขับออกถนน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วการทำงานของเครื่องยนต์จะไม่มีเสียงผิดแปลก โดยเฉพาะ**เสียงเหล็กกระทบกัน หรือทางศัพท์ช่าง เรียกว่า “เสียงน๊อก” (Knocking) ซึ่งหากท่านได้ยินเสียงดังกล่าว และไม่เคยได้ยินมาก่อนนั้น ให้รีบไปหาผู้เชี่ยวชาญทันที แต่ทางที่ดีอันนี้อยากแนะนำบันทึกเสียงนั้นไว้ก่อน โดยอาจจะถ่ายคลิป เพื่อใช้ประกอบในการอธิบายปัญหา

         4.ควันขาวออกท่อ จงจำไว้ว่ารถที่ดีนั้นต้องไม่มีควันขาว และเมื่อไรก็ตามที่รถของท่านมีอาการควันสีขาวออกท่อ พร้อมกลิ่นฉุน นั่นหมายถึงต้องมีสิ่งที่ผิดปกติกับระบบเครื่องยนต์ ซึ่งหากชี้ชัดไปนั้นมันจะมีหลายอาการมาก แต่เอาเป็นว่าถ้าเห็นแล้วรับหาช่างจะดีกว่านะ
5.ขับรถแล้วดูนุ่มนวลผิดกว่าปกติ บางครั้งที่คุณขับรถนั้นเวลาขับสังเกตดีๆว่ารถเรานิ่มนวลผิดปกติไปหรือไม่จากที่เคยใช้มา ถ้าคำตอบคือ “ใช่” แสดงว่ารถคุณมีความเป็นไปได้ใน 2 ทาง คือ 1 ลมยางอ่อน บางครั้งอาจจะหมายถึงยางรั่ว กับ 2 ระบบช่วงล่างบางชิ้นเสื่อมสภาพ โดยมากคือสปริง หรือโช๊ค

          6.เสียง จี๊ดๆ ตอนเบรก ในข้อนี้หลายคนอาจจะบอกว่ามันเป็นอย่างไร แต่เอาเป็นว่าเมื่อคุณกดเบรกแล้ว ได้ยินเหมือนเสียงหนูร้องเพรียกอยู่ในรถ อาจจะด้านหน้า หรือ ด้านหลัง ซึ่งข้อนี้หมายถึงผ้าเบรกที่กำลังหมดอายุการใช้งาน ถ้าได้ยินแล้วอย่ารอช้า รีบหาเวลาไปเปลี่ยนผ้าเบรกก่อนที่มันจะทำความเสียหายต่อชุดจานเบรก

          7.รถเร่งแล้วอืดกว่าเดิม ถ้าเมื่อไรรถคุณเร่งแล้วรู้สึกว่าไม่พุ่งเหมือนเดิมนั้น แต่ไม่มีความผิดปกติอย่างอื่นเช่นรอยน้ำมัน นั่นหมายถึงรถคุณนั้น อาจจะต้องการการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องแล้ว แต่หากถ่ายมาแล้วและยังวิ่งอืดอยู่ ก็จะมีอีก 2 ตัว คือ 1.กรองน้ำมันเชื้อเพลิง และ 2 กรองอากาศ ซึ่งอาการรถมีอัตราเร่งถอยนี้มีผลโดยตรงต่ออัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงครับ






 cr. tlcthai.com,ภาพ ขับรถ

 

nidnoi
ชม 2,860 ครั้ง
 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

  • นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการและผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส แจ้งว่า เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ...
    by dogTech
  • สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ขอเชิญผู้สนใจส่งผลงานนวัตกรรมเข้าร่วมประกวด รางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ประจำปี 2557 โดยสามารถดาวน์โหลดและส่งใบสมัครได้ที่ www.nia.or.th/niaward ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2557...
    by dogTech
  • ใครว่าพริกมีดีแค่ความเผ็ด จริงๆแล้วพริกมีประโยชน์เพื่อสุภาพมากกว่าแค่ความเผ็ด ดังนั้นมากินพริกเพื่อสุขภาพกันเถอะ พริกประกอบไปด้วยวิตามินสำคัญ เช่น วิตามินเอ วิตามินซี แคลเซียม และธาตุเหล็กซึ่งมีมากในพริกสดและพริกแห้ง...
    by nidnoi
  • 1.ถ้าเป็นคนที่ชอบแต่งหน้าเราก็ควรที่จะรู้จักวิธีเช็ดทำความสะอาดผิวหน้าของเราอย่างถูกวิธี เพื่อผิวหน้าของเราจะได้สะอาด หน้าใสไร้สิวนะจ๊ะ 2. ล้างหน้าให้สะอาดและถูกวิธีเพื่อผิวสวยหน้าใส...
    by nidnoi

สงวนลิขสิทธิ์ © 2556 uAsean.com มหานครอาเซียน Developed By Upbean